Search

Mission: Impossible - Fallout (8/10)
มันคือกา...

  • Share this:

Mission: Impossible - Fallout (8/10)
มันคือการผลักดันแฟรนไชส์นี้ให้ไปไกลมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในแง่ของการออกแบบสตั๊นท์โชว์ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ยิ่งทอม ครูซเล่นเองทุกฉากและหาผู้กำกับสายแอ็คชั่นเก่ง ๆ แบบคริสโตเฟอร์ แมคควอรีย์ มาทำต่ออีกยิ่งแสดงให้เห็นว่าแฟรนไชส์ MI ยังไปได้อีกไกลแน่นอน
-------------------------------

'อีธาน ฮันท์' (Tom Cruise) รับภารกิจชิงพลูโตเนียมที่ถูกขโมยไปกลับมาแต่เขาทำภารกิจล้มเหลวเพราะเลือกจะช่วยชีวิตเพื่อนร่วมทีมหนึ่งคนจนทำให้คนนับล้านบนโลกต้องเสี่ยง ความผิดพลาดครั้งนี้ทำให้ CIA ต้องส่ง 'วอล์กเกอร์' (Henry Cavill) มาประกบติดเพื่อชิงพลูโตเนียมกลับมาอีกครั้ง โดยมีอุปสรรคสำคัญคือ 'โซโลมอน เลน' (Sean Harris)
.
พูดถึงแอ็คชั่นก่อน เราดูหนังแอ็คชั่นทั้ง 4 เรื่องที่แมคควอรีย์กำกับแล้วกล้าคอนเฟิร์มเลยว่าคนนี้ของจริง คือถ้าไปดู The Way of the Gun และ Jack Reacher จะเห็นว่าเขาชำนาญการออกแบบฉากเข้าปะทะด้วยอาวุธปืนที่มีรูปแบบยุทธวิธีชัดเจน และเน้นความสมจริงมาก ๆ ด้วย พอก้าวเข้ามาสู่การกำกับ Rogue Nation เขาก็นำพาหนังชุดนี้เข้าสู่ระดับความสมจริงต่อเนื่องมาถึง Fallout แม้หนังจะยังคงมีหน้ากากเป็นฮัลโลวีนและมีอุปกรณ์ล้ำ ๆ ตลอดทั้งเรื่อง แต่รูปแบบการต่อสู้นั้นเน้นความดิบและอัดแน่นลูกบ้าในระดับที่เป็นไปได้ ในภาคนี้เต็มไปด้วยฉากเจ๋ง ๆ ตั้งแต่การโดด HALO (High Altitude Low Opening) โดดร่มจากระดับความสูง 25,000 ฟุตแต่เปิดร่มเหนือพื้นแค่ 2,000 ฟุต ซึ่งตอนแรกเราคิดว่ามันคงไม่มีอะไรมากเพราะตอนภาค Rogue Nation อัดโปรโมทฉากเกาะเครื่องบินซะดิบดีแต่พอดูจริงก็ไม่มีอะไร แต่ไม่ใช่สำหรับ HALO Jump ที่มาเหนือคาดมากเพราะหนังโชว์กลางอากาศนานมากแล้วเจ๋งมากด้วย ตื่นเต้น ลุ้นระทึก กดดันตามสถานการณ์ อีกอย่างคือเราได้ดูโรง IMAX ที่เอ็มควอเทียร์ เรารู้สึกได้เลยว่าพวกฉากบนท้องฟ้าควรเป็นโรง IMAX จริง ๆ (ทั้งฉาก HALO และเฮลิคอปเตอร์ไล่ล่า) คือโรง IMAX จอมันจะสูงกว่าโรงปกติแล้วที่นั่งจะชันกว่าและใกล้จอกว่า ความรู้สึกมันเลยใกล้เคียงกับการอยู่ในหนัง ซึ่งมันช่วยในแง่อารมณ์และความสมจริงยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนฉากอื่น ๆ ใน Fallout ที่เด็ด ๆ ก็มีฉากต่อยในห้องน้ำ อันนี้ต้องยอมความเถื่อนและความดิบหนักของทุกหมัดที่ปล่อยออกมา, ฉากเฮลิคอปเตอร์ไล่ล่าก็ทำดี เราชอบการออกแบบฉากนี้ในแง่ของการลดทอนประสิทธิภาพตัวละครให้เหลือเพียงสถานะผู้โดยสารไม่ใช่ผู้ควบคุมคันโยกด้วย เจ๋งดี, ฉาก car chase ขับรถไล่ล่าในปารีสก็เด็ดดวง ดูซิ่งซิกแซ็กโลดโผนจัดเต็มมาก
.
ความโดดเด่นอีกอย่างของ Fallout คือการสำรวจอีธาน ฮันท์ ในแง่ของการปกป้องโลก อย่างที่รู้กันว่าภาค Rogue Nation ได้ตั้งคำถามถึงตัวตนของหน่วย IMF ว่ายังมีความจำเป็นอยู่หรือไม่ เพราะว่าความมั่นคงของประเทศ/โลกต้องฝากไว้ในมือของหน่วยงานที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ ภารกิจแต่ละภาคคือการที่อีธาน ฮันท์เอาหายนะระดับชาติเข้าไปเสี่ยงอันตราย แม้ว่าผลลัพธ์ที่ได้มันจะออกมาสำเร็จก็เถอะ ดังนั้นใน Fallout เขาจึงเผชิญแบบทดสอบใหม่คือจะมุ่งสู่เป้าหมายพิชิตภารกิจโดยที่มือไม่เปื้อนเลือดบริสุทธิ์ได้หรือไม่ และเหตุผลอะไรที่จะมีน้ำหนักเพียงพอให้เขาต้องแยกทางจากคนรักในภาค 3 ด้วย ซึ่ง Fallout จะพาไปสำรวจแง่มุมเหล่านั้นจนทำให้เราต้องย้อนคิดถึงภาคก่อน ๆ ขึ้นมา
.
ในส่วนของนักแสดงอย่างทอม ครูซ ต้องบอกว่าเขามาไกลเหลือเกิน ต้องไม่ลืมว่าปีนี้เขาอายุ 56 ปีแล้วแต่ยังคงเล่นฉากสตั๊นท์ต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ในขณะที่ตัวละครอีธาน ฮันท์เจอการท้าทายขีดจำกัดเรื่อย ๆ มันก็เหมือนท้าทายความสามารถของทอม ครูซมากขึ้นด้วยเช่นกัน จะว่าไปแล้วถ้าทอม ครูซแสดงหนังชุดนี้ต่ออีกสัก 2-3 ภาค เราอาจจะได้เห็นเขาขับเครื่องบินรบหรือเป็นนักบินอวกาศก็ได้ เพราะเลเวลงานสตั๊นท์เขาไต่ระดับขึ้นเรื่อย ๆ จากปีนตึกสูงที่สุดในโลก, เกาะเครื่องบิน, มาภาคนี้ได้ขับเฮลิคอปเตอร์กับได้โดด HALO Jump อนาคตอะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้นแล้วล่ะ และเราก็ยินดีที่จะติดตามรอดูเขาท้าทายขีดจำกัดของตัวเองยิ่งขึ้นไปอีก
.
.
.
.
ดูแบบซับไทยได้เลยใน Netflix: https://www.netflix.com/watch/80236314
.
.
.
.
ดูรีวิวซีรีส์ได้ที่: http://bit.ly/2STE5O4
อ่านเกร็ดหนังคั่นเวลา: http://bit.ly/2QMsEVV
หรืออยากอ่านสาระยาว ๆ แก้เบื่อ: http://bit.ly/2QnHCmb

#หนังโปรดของข้าพเจ้า


Tags:

About author
ผมมีความฝันอยากเห็นคนไทยได้รู้จักหนังหลากหลายกว่าเดิม ผมจึงสร้างเพจ 'หนังโปรดของข้าพเจ้า' ด้วยความเชื่อที่ว่าทุกคนอยากแนะนำหนังโปรดของตัวเอง โดยเคารพความแตกต่างของรสนิยมทุกคน เพราะหนังโปรดของเรา อาจไม่ใช่หนังโปรดของเขา ยินดีต้อนรับคนรักหนังทุกท่านนะครับ :)
"หนังโปรดของเรา อาจจะไม่ใช่หนังโปรดของเขา" ยินดีที่ได้แนะนำหนังผ่านการเขียนรีวิว
View all posts